ตกขาวประจำเดือน...แบบไหนที่เสี่ยง“มะเร็งปากมดลูก”
ตกขาวประจำเดือน...แบบไหนที่เสี่ยง“มะเร็งปากมดลูก”
การมีตกขาวมากผิดปกติ ทั้งที่เป็นน้ำและข้น เป็นมูก ตกขาวมีเลือดหรือหนองปน อาจจะมีกลิ่นหรือไม่มีกลิ่นก็ได้ อาการเหล่านี้..ล้วนเป็นสัญญาณเตือนถึง “มะเร็งปากมดลูก” ตลอดจนการมีประจำเดือนมามาก ประจำเดือนมานาน การมีเลือดออกทางช่องคลอดหรือมีของเหลวออกทางช่องคลอด มีเลือดออกหรือมีอาการเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หรือปวดท้องน้อยร่วมด้วย
ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิง...มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูก
- 1.การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย (อายุต่ำกว่า 17-18 ปี) เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่มีความไวต่อสารก่อมะเร็งสูง โดยเฉพาะ..เชื้อ HPV
- 2.การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะทำให้โอกาสเสี่ยงติดเชื้อ HPV จากฝ่ายชายเพิ่มสูงขึ้น
- 3.การมีบุตรหลายคน หรือมากกว่า 3 คนขึ้นไป โดยมีรายงานพบว่า..การมีบุตรมากทำให้โอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มสูงขึ้น 2-3 เท่า
- 4.การไม่รักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอด หรือปล่อยให้มีแผลอักเสบที่ปากมดลูกโดยไม่รักษา
- 5.รับประทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานาน (มากกว่า 5 ปี ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้น)
- 6.พฤติกรรมอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการรับประทานผักผลไม้น้อยเกินไป
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- 1.Pap smear เป็นการตรวจภายในร่วมกับการตรวจทางเซลล์วิทยาเพื่อหาความผิดปกติของเซลล์ที่อาจเกิดจากเชื้อมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้น โดยหากแพทย์พบความผิดปกติก็จะทำการเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก เพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
- 2.ThinPrep เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ให้ผลการตรวจที่ละเอียดกว่า Pap smear โดยแพทย์จะทำการเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ ก่อนจะนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
- 3.HPV Testing เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับการตรวจ DNA ของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเชื่อมโยงกับมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุล..ที่สามารถค้นหาเชื้อ HPV ได้ในระยะก่อนเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้ป้องกันและรักษาการติดเชื้อ HPV ได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยมีปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงมากมาย ทั้งอายุ พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การป้องกันที่ดีคือหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกาย หากพบสัญญาณเตือนมะเร็งปากมดลูก ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น