ปวดหลังปวดคอขนาดไหน ถึงต้องทำ MRI
การตรวจด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คือ เทคนิคการสร้างภาพที่ใช้รังสีวิทยาเพื่อการตรวจร่างกาย โดยเครื่องที่ใช้ตรวจมีการปล่อยสนามแม่เหล็กและคลื่นวิทยุความเข้มสูงออกมา ทำให้เห็นภาพเหมือนจริงของอวัยวะภายในต่างๆ ของร่างกาย มีรายละเอียดและความคมชัดสูง โดยเฉพาะสมอง หัวใจ กระดูก กล้ามเนื้อ และส่วนที่เป็นมะเร็ง ทำให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการตรวจด้วยเครื่อง MRI นี้ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ แก่ร่างกาย และไม่มีอันตรายจากรังสีตกค้าง
เครื่อง MRI สามารถใช้ตรวจโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังได้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น โรคกระดูกพรุน โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รวมถึงอาการบาดเจ็บต่าง ๆ จากการเล่นกีฬา โดยแพทย์จะทำการซักประวัติและสั่งตรวจด้วยเครื่อง MRI เพิ่มเติม ซึ่งช่วยในการตรวจวินิจฉัยอาการปวดหลังที่ต้นเหตุได้
การตรวจด้วยเครื่อง MRI สามารถตรวจพบความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว สามารถบอกขอบเขตของโรคได้ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาโรคต่อไปได้ ให้ภาพคมชัด ละเอียด แยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อได้อย่างชัดเจน ทำให้มีความถูกต้องแม่นยำในการวินิจฉัยโรคมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงกับการฉีดสารทึบรังสี ที่สำคัญการตรวจด้วยเครื่อง MRI ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อเพราะไม่ใช้คลื่นรังสี
การตรวจด้วยเครื่อง MRI ผู้ถูกตรวจจะไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ และไม่มีอันตรายจากรังสีตกค้าง ในด้านการเตรียมตัวนั้นก็ไม่ยุ่งยากซึ่งการเตรียมตัวก่อนตรวจด้วยเครื่อง MRI มีดังนี้
ผู้รับการตรวจนอนสบายๆ นิ่งๆ บนเตียงตรวจ โดยระยะเวลาในการตรวจขึ้นอยู่กับอวัยวะที่จะตรวจเฉลี่ยประมาณ 40 นาที - 1 ชม.
ผู้ป่วยควรสังเกตอาการผิดปกติของตนเอง เช่น มีผื่นลมพิษตามตัวหรือไม่ มีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือไม่ หากรู้สึกถึงความผิดปกติควรรีบบอกเจ้าหน้าที่ หากไม่มีภาวะผิดปกติ ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหาร และทำกิจวัตรได้ตามปกติ