การที่ลูกรักของคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่มีอาการร้องไห้ไม่หยุด เด็กบางคนอาจร้องไห้เป็นเวลานาน หรือบางคนอาจร้องแค่เพียงครู่เดียว ซึ่งการร้องไห้ของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป เพราะเด็กยังไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้ รวมทั้งการร้องไห้ยังเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็ก นอกจากนี้การร้องไห้ของเด็กยังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของอาการเจ็บป่วยของโรคบางอย่างได้ โดยสาเหตุที่ทำให้เด็กร้องไห้ ได้แก่
ต่อมาคืออาการเจ็บป่วย เช่น ไม่สบาย ตัวร้อน ปวดหัว ท้องอืด เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถส่งผลทำให้เด็กร้องไห้ได้ คุณพ่อและคุณแม่ควรตรวจสอบและหมั่นสังเกตความผิดปกติทางร่างกายลูกอย่างสม่ำเสมอ เช่น การใช้ที่วัดไข้ดิจิทัลวัดอุณหภูมิลูกเพื่อดูว่าลูกตัวร้อนและไม่สบายหรือเปล่า หากพบว่ามีอาการดังกล่าวควรพาลูกไปพบแพทย์ในทันที
หากลูกร้องเพราะป่วย จะสามารถสังเกตได้จากที่ลูกมักจะร้องทั้งวัน ไม่ได้เป็นแค่บางช่วงเวลา ร่วมกับมีอาการต่างๆ เช่น ไข้ อาเจียน ท้องเสีย ไม่กินนม น้ำหนักไม่ขึ้น เป็นต้น แต่หากเด็กร้องโคลิคจะร้องแบบไม่ทราบสาเหตุ ปลอบให้หยุดได้ยาก ช่วงไม่ร้องก็จะปกติ กินนมดี สบายตัว เล่นได้ แต่พอถึงช่วงที่ร้องก็จะร้องเสียงดัง เสียงสูง ร้องไม่หยุดเป็นชั่วโมง หน้าท้องเกร็ง แต่อาการจะเกิดเป็นช่วงเวลา
โดยที่พบกันบ่อยที่สุดจะเป็นช่วงเย็น ช่วงค่ำ โดยอาการร้องโคลิคสามารถพบได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด พบบ่อยมากสุดในเด็กอายุช่วง 4 - 6 สัปดาห์ และอาการมักจะเป็นไม่เกินอายุ 5 เดือน แต่หากลูกร้องมาก ร่วมกับมีอาการต่างๆ อาจต้องปรึกษากุมารแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ ทางแก้ไขและรักษาต่อไป
การให้เด็กหยุดร้องในเด็กที่มีอาการโคลิกนั้นค่อนข้างยากเด็กอาจหยุดร้องเป็นพักๆ หากเด็กระบายลมออกมาได้ หรือมีการขยับของลำไส้ อาการจะดีขึ้น อย่างไรก็ตามขณะเด็กร้อง ให้ทำดังนี้