ท้องผูกบ่อยๆอาจไม่ใช่แค่ไม่ทานผัก

ท้องผูกบ่อยๆอาจไม่ใช่แค่ไม่ทานผัก

ท้องผูกเรื้อรัง มะเร็ง อาการและสาเหตุ

แม้อาการท้องผูกจะไม่ใช่โรคที่อันตราย แต่หากละเลยจนท้องผูกเรื้อรังเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ภาวะภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง เช่น แผลในลำไส้ใหญ่  ริดสีดวงทวารหนัก เป็นต้น ตลอดจนบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

ท้องผูก คือ การถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อุจจาระแข็งและแห้ง  ใช้เวลานานกว่าจะขับถ่ายเสร็จ และเมื่อถ่ายเสร็จแล้วยังรู้สึกเหมือนยังถ่ายไม่สุด  สาเหตุของอาการท้องผูก ได้แก่

  • 1.ความเครียด
  • 2.การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย หรือมีปริมาณที่ไม่เพียงพอ
  • 3.ดื่มน้ำน้อย
  • 4.ขาดการออกกำลังกาย
  • 5.เคยชินกับการรับประทานยาระบายหรือสวนอุจจาระเองบ่อยๆ
  • 6.ชอบกลั้นอุจจาระ
  • 7.อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด  ยาลดกรด และยาลดความดัน
  • 8.โรคประจำตัวบางโรคที่ส่งผลต่อการขับถ่าย เช่น เบาหวาน  พากินสัน เส้นเลือดในสมองตีบ

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

สำหรับผู้ที่ถ่ายอุจจาระยากหรือ มีอาการท้องผูกเป็นประจำ หากมีลักษณะอุจจาระเปลี่ยนไปควรรีบพบแพทย์ทันที โดยสามารถสังเกตอาการเบื้องต้น

  • 1.หากอุจจาระมีเลือดปน ถ่ายเป็นเลือด มีลักษณะ สี หรือขนาดเปลี่ยนไป ขณะขับถ่ายมีเลือดออกทางทวารหนัก
  • 2.ปวดถ่ายอุจจาระบ่อยขึ้นจากปกติ
  • 3.คลำพบก้อนในช่องท้อง
  • 4.รู้สึกปวดเบ่งบริเวณทวารหนักคล้ายปวดอุจจาระตลอดเวลา
  • 5.น้ำหนักลดโดยไม่ทราบเหตุ 
  • 6.มีภาวะซีด อ่อนเพลีย   
  • 7.ปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ไม่ถ่ายอุจจาระ หรือไม่ผายลม

อาการเหล่านี้อาจเป็นอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

อาหารป้องกัน ท้องผูก

  • 1.ข้าวกล้องและธัญพืช อุดมด้วยใยอาหาร ช่วยบำรุงร่างกายและช่วยแก้ปัญหาการขับถ่าย 
  • 2.ผลไม้ต่างๆ ที่ไม่หวานจัด โดยเฉพาะมะละกอสุก นอกจากมีกากใยและน้ำ ยังอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์กับระบบทางเดินอาหาร 
  • 3.ผักใบเขียว เช่น กุยช่าย ผักโขม มีกากใยสูง ช่วยย่อยอาหาร และบำรุงร่างกาย

การปรับอาหารและเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่ายให้เหมาะสมอาจช่วยแก้ปัญหาท้องผูกเรื้อรังได้ แต่ยังคงมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งตาม American Cancer Society กำหนดช่วงอายุที่ควรเข้ามาตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่อยู่ที่ 45 ปี หรือหากมีประวัติครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ ก็สามารถเข้ารับการตรวจก่อนอายุ 45 ปีได้ โดยวิธีการตรวจคัดกรองที่แพทย์นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่