หมอ MFM สำคัญยังไง แม่ท้องต้องรู้ก่อนฝากครรภ์
หมอ MFM สำคัญยังไง แม่ท้องต้องรู้ก่อนฝากครรภ์
รู้จักกับ MFM
Maternal Fetal Medicine (MFM) คือ แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โดยมีการต่อยอดหลังจากจบการฝึกอบรมสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา โดยจะดูแลมารดาตั้งครรภ์และทารกในครรภ์แบบเชิงลึก ตรวจหาความเสี่ยง อัลตราซาวนด์ดูความสมบูรณ์ของทารก ประเมินการรักษา ป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดการตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่และเจ้าตัวน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง
หน้าที่ของ MFM
หน้าที่หลักของแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) ได้แก่
- 1.ดูแลให้คำปรึกษาตั้งแต่เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างฝากครรภ์ ช่วงเวลาคลอด และหลังคลอด
- 2.ดูแลและรับฝากครรภ์ในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง
- 3.แนะนำและให้คำปรึกษาเมื่อสงสัยหรือตรวจพบว่าทารกในครรภ์มีภาวะผิดปกติ
- 4.ตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์และหาความพิการของทารกในครรภ์
- 5.ตรวจคัดกรองและวินิจฉัยความผิดปกติของทารกในครรภ์
- 6.รักษาทารกในครรภ์ที่มีความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ได้แก่ ทารกบวมน้ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น
- 7.ตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารกในครรภ์มารดา ได้แก่ การเจาะน้ำคร่ำ การเจาะชิ้นเนื้อรก การเจาะเลือดสายสะดือทารก เป็นต้น
- 8.ดูแลการทำคลอดและหลังการคลอดบุตร
- 9.ยุติการตั้งครรภ์ตามข้อบ่งชี้การแพทย์
กลุ่มคุณแม่ครรภ์เสี่ยงสูง
คุณแม่ที่มีครรภ์เสี่ยงสูงคือกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) ได้แก่
- 1.คุณแม่อายุมากกว่า 35 ปี
- 2.คุณแม่อายุน้อยกว่า 18 ปี
- 3.คุณแม่ครรภ์แฝด โดยเฉพาะแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกันจะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง เช่น ทารกมีการถ่ายเทเลือดระหว่างกัน ทารกเติบโตขนาดไม่เท่ากัน เป็นต้น
- 4.คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคไต ลมชัก โรคหอบหืด โรคมะเร็ง
- 5.คุณแม่หมู่เลือดผิดปกติคือ Rh negative ที่มี Isoimunization
- 6.คุณแม่ติดเชื้อต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
- 7.คุณแม่ที่มีประวัติรับยาหรือสารเคมีที่อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์
- 8.คุณแม่ที่มีภาวะปากมดลูกสั้น
- 9.คุณแม่ที่มีภาวะแท้งคุกคาม แท้งบ่อย รกเกาะต่ำ
- 10.คุณแม่ที่เคยคลอดบุตรก่อนกำหนด
- 11.คุณแม่ที่เคยคลอดทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
- 12.คุณแม่ที่เคยคลอดทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย คลอดทารกตัวเล็กกว่าปกติ (IUGR)
- 13.คุณแม่ที่คลอดบุตรมีความพิการแต่กำเนิด
- 14.คุณแม่ที่มีโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย
- 15.คุณแม่ครรภ์เป็นพิษ
ตรวจคัดกรองกับ MFM
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรตรวจคัดกรองด้วยการอัลตราซาวนด์กับแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) อย่างน้อย 3 ครั้ง ได้แก่
- ครั้งที่ 1 สัปดาห์ที่ 11 – 14 ตรวจเพื่อดูพัฒนาการของทารก หากพบความผิดปกติสามารถหาทางแก้ปัญหาได้โดยเร็ว ช่วยลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น
- ครั้งที่ 2 สัปดาห์ที่ 18 – 23 ตรวจเพื่อค้นหาความผิดปกติของโครงสร้างทารก หากไม่พบความผิดปกติในช่วงนี้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าทารกแข็งแรง โดยจะมีการตรวจรก เนื้องอก ความผิดปกติภายในมดลูก วัดความยาวของปากมดลูกเพื่อตรวจเช็กความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดของแม่ตั้งครรภ์ด้วย
- ครั้งที่ 3 สัปดาห์ที่ 32 – 36 ตรวจเพื่อดูการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ตำแหน่งรก ปริมาณน้ำคร่ำ ความผิดปกติบางอย่างอาจพบเจอในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์แม้โอกาสที่เกิดขึ้นจะไม่มากนัก