มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคที่พบเป็นอันดับ 4 ของผู้ชายไทย และยังพบว่ามีอัตราผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าว “เพิ่มขึ้นทุกปี” จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่าผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยง โดยมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่ที่ร้อยละ 16.72 ส่วนผู้ชายที่มีอายุประมาณ 60 ปี มีโอกาสตรวจเจอมะเร็งต่อมลูกหมากร้อยละ 50-60 โดยความเสี่ยงของโรคเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น และอาจสูงถึงร้อยละ 80 ในผู้ชายที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป
จากการศึกษาพบว่าประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีอัตราการป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าประชากรในแถบยุโรป แอฟริกัน และอเมริกัน แต่ที่น่าสนใจคือในเมืองใหญ่ของทวีปเอเชียกลับพบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ฮ่องกง เป็นต้น
ทั้งนี้อาการที่กล่าวมาเป็นเพียงวิธีการสังเกตตนเองเบื้องต้นเท่านั้น ไม่จำเป็นเสมอไปว่าถ้าหากมีอาการดังกล่าวจะต้องป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เนื่องจากบางอาการ เช่น อาการทางปัสสาวะที่ผิดปกติ อาจแสดงถึงอาการต่อมลูกหมากโตธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าหากมีอาการตามที่กล่าวมาควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด เพราะอาการเบื้องต้นของมะเร็งต่อมลูกหมากมักมีอาการของต่อมลูกหมากโตนำมาก่อน
การแข็งตัวของอวัยวะเพศที่มีปัญหามีความสัมพันธ์ต่อมะเร็งต่อมลูกหมากส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด พบว่ามะเร็งต่อมลูกหมากที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศนั้นต้องมีอาการของมะเร็งค่อนข้างมากจนไปกินเส้นประสาทบริเวณองคชาตทำให้การแข็งตัวลดลง
ทั้งนี้ที่พบบ่อยกว่าในเรื่องของการแข็งตัวของอวัยวะเพศที่มีปัญหามักเกี่ยวข้องกับอาการของ โรคหัวใจและหลอดเลือดหรือไขมันอุดตันในเส้นเลือดมากกว่า พบว่าผู้ป่วยบางรายที่ป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด อาจไม่มีอาการแน่นหน้าอกหรือเหนื่อยหอบเลย แต่กลับมีความผิดปกติในเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศแทน ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวอาจเป็นได้ทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหัวใจและหลอดเลือด ก็เป็นได้ โดยทั่วไปพบว่าการแข็งตัวของอวัยวะเพศที่มีปัญหามักมีผลมาจากการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่า อย่างเช่นการผ่าตัด ฉายแสง หรือฝังแร่ ที่อาจทำให้เส้นประสาทที่เลี้ยงองคชาตถูกตัดออกไป จึงทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการแข็งตัว